Article

บทความ

ทำไม NIPT ถึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยในการตรวจโครโมโซมเพศ


การตรวจโครโมโซมเพศของทารกเป็นสิ่งที่คุณแม่หลายท่านให้ความสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยให้รู้เพศของลูกได้อย่างแม่นยำแล้ว ยังสามารถช่วยตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมที่เกี่ยวข้องกับเพศได้อีกด้วย ซึ่งวิธีการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันคือ การตรวจ NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing) เพราะมีความปลอดภัยสูงและให้ผลที่แม่นยำอย่างมาก โดยมีเหตุผลที่สนับสนุนดังนี้ค่ะ

 1. ปลอดภัยต่อคุณแม่และทารก 

การตรวจ NIPT เป็นการตรวจคัดกรองที่ปลอดภัย เพราะอาศัยการเจาะเลือดจากคุณแม่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อเก็บตัวอย่างเลือดที่มี cell-free DNA ของทารกที่ปะปนอยู่ในกระแสเลือดของคุณแม่ ซึ่งวิธีการนี้ไม่ต้องมีการลุกล้ำตัวทารกในครรภ์แต่อย่างใด ต่างจากการตรวจแบบเจาะน้ำคร่ำ (Amniocentesis) หรือการเก็บชิ้นเนื้อจากรก (Chorionic Villus Sampling - CVS) ที่มีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตรหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อตัวคุณแม่และทารก

ดังนั้น การเลือกตรวจ NIPT จึงช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ และทำให้คุณแม่สามารถทราบข้อมูลที่จำเป็นได้อย่างปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเรื่องภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการตรวจที่ต้องเจาะเข้าสู่ร่างกายค่ะ

 2. มีความแม่นยำสูง
อีกหนึ่งจุดเด่นของ NIPT คือ ความแม่นยำในการตรวจคัดกรองโครโมโซมที่เกี่ยวข้องกับเพศ เช่น โครโมโซม X และ Y ซึ่งการตรวจสามารถบอกได้อย่างชัดเจนว่า ทารกมีเพศชายหรือเพศหญิง โดยมีความแม่นยำสูงมากกว่า 99% เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการตรวจอื่น ๆ ที่อาจมีโอกาสผิดพลาดได้สูงกว่า นอกจากนี้ การตรวจ NIPT ยังสามารถตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมเพศที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น

• Turner Syndrome (X): ภาวะที่ทารกมีโครโมโซม X เพียงแท่งเดียว ทำให้มีปัญหาด้านการเจริญเติบโต
• Klinefelter Syndrome (XXY): ภาวะที่ทารกมีโครโมโซม X เพิ่มมาอีกหนึ่งแท่งในเพศชาย ทำให้เกิดปัญหาทางพัฒนาการและการเจริญพันธุ์
• Triple X Syndrome (XXX): ภาวะที่ทารกเพศหญิงมีโครโมโซม X เกินมาอีกหนึ่งแท่ง อาจส่งผลต่อพัฒนาการทางร่างกายและสติปัญญา
• XYY Syndrome: ภาวะที่ทารกเพศชายมีโครโมโซม Y เกินมาอีกหนึ่งแท่ง ซึ่งอาจมีผลต่อพฤติกรรมและพัฒนาการ

ดังนั้น ความแม่นยำที่สูงนี้จึงช่วยให้คุณแม่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการวางแผนการดูแลสุขภาพของทารกต่อไปค่ะ

 3. ตรวจได้ตั้งแต่อายุครรภ์น้อย
การตรวจ NIPT สามารถทำได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 10 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งถือว่าเร็วกว่าการตรวจอื่น ๆ ที่อาจต้องรอให้มีอายุครรภ์มากกว่านี้ถึงจะสามารถตรวจได้อย่างแม่นยำ การรู้ผลเร็วช่วยให้คุณแม่สามารถวางแผนการตั้งครรภ์ได้อย่างมั่นใจและสบายใจมากยิ่งขึ้น

 4. สะดวกและรวดเร็ว 
การตรวจ NIPT ใช้เพียงการเจาะเลือดจากคุณแม่เท่านั้น ไม่ต้องมีขั้นตอนที่ซับซ้อนหรือยุ่งยาก ซึ่งการเก็บตัวอย่างเลือดนี้สามารถทำได้ที่โรงพยาบาลหรือคลินิกที่มีบริการ NIPT ที่ได้มาตรฐาน

หลังจากเจาะเลือดเรียบร้อยแล้ว ตัวอย่างเลือดจะถูกส่งไปตรวจในห้องปฏิบัติการที่มีอุปกรณ์ทันสมัยและได้รับการรับรองมาตรฐาน ซึ่งผลการตรวจจะออกมาอย่างรวดเร็วภายใน 7-10 วัน ทำให้คุณแม่ไม่ต้องรอนาน และสามารถนำผลการตรวจไปใช้ในการวางแผนการดูแลทารกต่อไปได้อย่างทันท่วงทีค่ะ

 5. เป็นที่ยอมรับในระดับสากล 

สำหรับการตรวจ NIPT ของ NGG Thailand นั้น ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล ได้แก่
• ISO 15189 และ ISO 15190 มาตรฐานที่เน้นการควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยในห้องปฏิบัติการ
• CE-IVD (Conformité Européenne – In Vitro Diagnostic Device): เครื่องหมายที่แสดงถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการตรวจวินิจฉัยทางการแพทย์

การได้รับการรับรองเหล่านี้เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าการตรวจ NIPT ของ NGG Thailand มีคุณภาพและความปลอดภัยสูง คุณแม่จึงสามารถมั่นใจได้ว่าผลการตรวจที่ได้รับนั้นมีความถูกต้องและเชื่อถือได้อย่างแท้จริงค่ะ การตรวจ NIPT จึงเป็นทางเลือกที่คุณแม่หลายคนเลือกใช้เมื่อต้องการตรวจโครโมโซมเพศของทารกและตรวจคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมไปพร้อมกัน โดยให้ผลที่แม่นยำ ปลอดภัย รวดเร็ว และได้รับการรับรองในระดับสากลค่ะ 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
LINE ID: @nggthailand
โทร: 061-391-8999
Website: https://www.nggthailand.com

#NGGThailand #GenomeForHealthierLife #ตรวจดาวน์ซินโดรม #ตรวจดาวน์ #ตรวจคัดกรองดาวน์ซินโดรม #คัดกรองดาวน์ซินโดรม #ดาวน์ซินโดรม #เจาะเลือดตรวจดาวน์ซินโดรม #เจาะเลือดคัดกรองดาวน์ #ตรวจเลือดดาวน์ซินโดรม #ตรวจเลือดคัดกรองดาวน์ซินโดรม #ตรวจดาวน์ซินโดรมที่ไหนดี #ตรวจคัดกรองทารกในครรภ์ #ตรวจNIPT #NIPT #Qualifi #QualifiPremium24 #NGS #NextGenerationSequencing #ตรวจNGS

LINE
FACEBOOK
TWITTER